นาโซฟอร์มเป็นอุปกรณ์ที่ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาของงานผ่าตัดแก้ไขริมฝีปากและจมูกที่ต้องการอะไรบางอย่างมาช่วยค้ำยันจมูกไว้ไม่ให้ล้มในช่วงที่แผลผ่าตัดยังไม่หายอย่างสมบูรณ์ซึ่งกินเวลายาวนานตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 1 ปี

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปี พ.ศ. 2555 ซึ่งในช่วงเวลานั้นอุปกรณ์ที่ใช้ค้ำยันจมูกส่วนใหญ่ทำจากวัสดุซิลิโคนซึ่งมีความนิ่มคล้ายเนื้อนำมาขึ้นรูปออกมาเป็นท่อสำหรับใส่เข้าไปในรูจมูกทั้งสองข้าง ราคาประมาณชิ้นละ 2,000 บาท ซึ่งก็ถือว่าไม่แพงหากสามารถจัดการกับปัญหาจมูกล้มภายหลังการผ่าตัดได้ การใช้ท่อค้ำยันจมูกซิลิโคนมีปัญหาตั้งแต่การหาขนาดที่ใส่เข้าไปในรูจมูกแล้วแน่นพอดีไม่เคลื่อนไหลออกมาจากรูจมูกและไม่ดันมากเกินไปจนทำให้แผลแยก เมื่อหาใส่ให้ได้แล้วก็ต้องเผชิญกับปัญหาการใส่ในชีวิตประจำวันอีก ด้วยความนิ่มเหมือนเนื้อของวัสดุซิลิโคนทำให้การใส่เข้าไปตามแนวของรูจมูกมีโอกาสผิดพลาดสูงถ้าดันเข้าไปถูกทางก็ใส่เข้าไปได้แต่หากดันเข้าไปผิดทิศทางก็จะเด้งออกมาทันที การใส่อุปกรณ์ลักษณะนี้จึงสร้างความเครียดให้กับหลายครอบครัวที่ต้องเป็นคนใส่ให้ลูกหลานโดยเฉพาะในช่วงหลังผ่าตัดใหม่ ๆ ที่มีความกังวลและความกลัวว่าแผลเย็บจะแตกในขณะใส่ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มากที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น หลายครอบครัวจึงถอดใจและเลือกที่จะไม่ใส่ให้ ครอบครัวไหนที่เก่งใส่ให้ลูกหลานได้ก็ต้องหาวิธีการยึดอุปกรณ์ไม่ให้เคลื่อนไหลออกมาตามแนวรูจมูก แม้จะยึดด้วยเทปที่คุณภาพดีแค่ไหนก็ไม่สามารถต้านทานต่อแรงผลักและแรงดันที่เกิดขึ้นภายในรูจมูกได้ นอกจากนี้เด็กบางคนยังหาวิธีเอาอุปกรณ์ออกเองโดยเอาหน้าถูไปกับบ่าคนอุ้มหรือถูไปกับที่นอน ครอบครัวไหนผ่านช่วงนี้ไปได้ก็ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ชิ้นใหม่ให้พอดีกับรูจมูกที่เปลี่ยนแปลงในระหว่างแผลหายและการเจริญเติบโตของลูกหลาน เปลี่ยนแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายอีกประมาณ 2,000 บาท  ทำหายก็ต้องซื้อใหม่ จะเห็นได้ว่าราคาสำหรับการคงสภาพความสวยงามของจมูกหลังการผ่าตัดแก้ไขให้คงอยู่ยาวนานต้องใช้ทั้งเงินทั้งความพยายามทั้งกำลังใจเป็นอย่างมาก 

เมื่อการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้จมูกมีรูปร่างสวยงามเป็นธรรมชาติได้และอุปกรณ์ที่มีใช้อยู่ก็ไม่ตอบโจทย์ ก็ต้องออกแบบใหม่ ซึ่งขั้นแรกได้คิดถึงการเปลี่ยนวัสดุจากซิลิโคนเป็นเรซินอะคริลิกทั้งชิ้นแต่ทำออกมาใช้ก็ไม่ได้ผล ต่อมาจึงนำลวดมาเป็นตัวเชื่อมท่อทั้งสองข้างทำออกมาก็ใส่ได้นานขึ้นแต่ไม่กี่ชั่วโมงก็หลุด จนกระทั่งได้ทำตามที่แม่เด็กแนะนำคือเอาลวดคล้องด้านข้างแล้วดึงขึ้นเป็นกระเช้าแขวนจมูกไว้กับหน้าผาก นี่คือจุดเริ่มต้นของ นาโซฟอร์ม อุปกรณ์ควบคุมรูปทรงจมูก ที่ส่งเข้าประกวดผลงานรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2557 ซึ่งผลงานนวัตกรรม “Nasoform” อุปกรณ์ควบคุมรูปทรงจมูก โดย คณะทันตแพทยศาสตร์ และ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ด้านสังคม

จากการใส่นาโซฟอร์มให้ทั้งเด็กทารก เด็กเล็ก เด็กโต และ ผู้ใหญ่ ที่ได้รับการผ่าตัดแก้ไขจมูกและริมฝีปากทั้งที่เป็นการแก้ไขครั้งแรกและที่เป็นการแก้ไขซ้ำ ด้วยเห็นประโชน์ของนวัตกรรมที่มีต่อผู้ป่วยและครอบครัวที่ประสบปัญหาภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ หน่วยจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงทำโครงการ “ยิ้มสวยด้วยนวัตกรรมไทย” โดยการสนับสนุนของมูลนิธิเกื้อดรุณ ทำให้ในปี พ.ศ. 2559 มีหนังสือ นาโซฟอร์ม อุปกรณ์ปรับรูปจมูก ตีพิมพ์เป็นรูปแล่มแจกจ่ายไปตามโรงพยาบาลและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมี e-book ให้ download มาอ่าน นอกจากนี้แล้วยังมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้บริษัท STD dental lab ทำให้มีนาโซฟอร์มในรูปแบบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปออกมาให้ใช้กัน